กอ.รมน., กลาโหม, ชายแดนไทย – พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. พร้อม ปล.กห. ได้ร่วมประชุมกับทุกเหล่าทัพ ตร.และ กอ.รมน.ผ่าน ระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามสถานการณ์และสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิดหลังปีใหม่
รมช.กห. ได้ย้ำสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห.
ให้ทุกเหล่าทัพ กอ.รมน.และตำรวจ โดยเฉพาะ กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท โดยยังคงตรึงกำลังคุมเข้มมาตรการเฝ้าตรวจ สกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองและสินค้าผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในต่อเนื่องเข้ามา ขณะเดียวกันให้ดูแลช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบจากฝั่งเมียนมา โดยให้ควบคุมคัดกรองโรคอย่างเคร่งครัด
พร้อมกันนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์และสนับสนุนมาตรการควบคุม และการปรับระดับพื้นที่ในจว.ต่างๆของศบค.รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคที่พบผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น โดยให้ทุกเหล่าทัพยกระดับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด เตรียมความพร้อม รพ.หลัก รพ.สนาม และศูนย์คัดกรอง ที่สามารถปรับเป็นพื้นที่แยกกักตัวชุมชน (CI) และให้พร้อมแปรสภาพเป็น รพ.สนามได้หากจำเป็น พร้อมทั้งเตรียมระบบการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแยกจากชุมชนออกสู่การรักษา และขอให้สนับสนุนจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ระดับพื้นที่ทั้งใน กทม.และจังหวัดต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ของโรคที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในวงกว้าง
ขณะเดียวกัน ขอให้จัดกำลังพลหมุนเวียนสนุบสนุน ศปม.ในการตรวจตรากิจกรรมและร้านค้าที่มีความเสี่ยง แจ้งเตือนและขอความร่วมมือกับประชาชน และบังคับใช้กฎหมาย หากจำเป็น เพื่อให้มาตรการรับมือและการควบคุมโรคภาพรวมเป็นไปอย่างได้ผล ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยทหาร ยกระดับการป้องกันและเฝ้าระวัง ไม่ให้มีการแพร่ระบาดหรือเกิดคลัสเตอร์หมู่ในหน่วยทหาร ซึ่งหากเกิดขึ้นต้องควบคุมและหยุดการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งให้สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนรอบหน่วยทหารในภาพรวมร่วมกัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเตรียมความพร้อมระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation: HI) เพื่อรองรับกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแพร่ระบาดที่รวดเร็ว อาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นกระจายไปในหลายพื้นที่ได้ สปสช. ได้พัฒนาระบบการติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทาง Line สปสช. @nhso กรณีเข้ารับบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน
ทั้งนี้ แนะนำประชาชนที่ตรวจ ATK ด้วยตัวเองแล้วขึ้น 2 ขีด สิ่งที่ต้องทำคือ โทรแจ้งสายด่วน 1330 กด 14 หรือแอดไลน์ @nhso (เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 6 ชั่วโมง) กรณีที่โทรไม่ติด หรือสายไม่ว่าง ไม่ต้องกังวล เพราะระบบได้บันทึกข้อมูลไว้แล้ว และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อรับข้อมูลเข้าระบบ ส่วนต่างจังหวัดสามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลส่วนตำบล
อีกทั้ง ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านจะได้รับการดูแลติดตามอาการ บริการส่งยา ส่งอาหาร ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ที่วัดไข้แบบดิจิทัล เครื่องวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นต้น ในกรณีที่จำเป็นอาจได้รับการเอกซเรย์ปอด การตรวจ RT-PCR จนหายป่วย หรือส่งต่อไปรักษาต่อในโรงพยาบาลกรณีอาการเปลี่ยนแปลง
เดลตาครอน! นักวิจัยไซปรัส พบ โควิดพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ผสม เดลต้า
โควิด เดลตาครอน – บลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวานนี้ว่า นักวิจัยในประเทศไซปรัสได้ค้นพบสายพันธุ์ของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่รวมเดลต้าและโอไมครอนอยู่ในตัวเดียวกัน เรียก เดลตาครอน” (Deltacron)
Leondios Kostrikis ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพแห่งมหาวิทยาลัย ผู้ค้นพบ ให้เหตุผลที่เรียกสายพันธุ์นี้ว่า ”เดลตาครอน” เนื่องจากมีลายเซ็นทางพันธุกรรมเหมือนโอไมครอนภายในจีโนมเดลต้า
จนถึงตอนนี้ Kostrikis และทีมของเขาพบผู้ติดเชื้อแล้ว 25 รายตามรายงาน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามีกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก
เมื่อเทียบกับสองสายพันธุ์หลัก ได้แก่ เดลต้าและโอไมครอน Kostrikis กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Sigma TV Friday เขาเชื่อว่าโอไมครอนจะแซงเดลตาครอนได้ นักวิจัยได้ส่งข้อค้นพบของพวกเขาในสัปดาห์นี้ไปยัง GISAID ซึ่งเป็นฐานข้อมูลระหว่างประเทศที่ติดตามไวรัสแล้ว
นายธนกร กล่าว “ขอย้ำว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจการแพร่ระบาดของโอมิครอน มีการประเมินและศึกษาข้อมูลกรณีต่างประเทศเพื่อนำมาวางแผนการรับมือต่อสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งพบว่าแม้โอมิครอนจะแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว แต่อาการไม่ค่อยรุนแรงมากนัก รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งระบบการรับแจ้งเหตุ (Call Center) การคัดกรอง/คัดแยกผู้ป่วย รักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อม CI/HI รวมทั้งโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ไว้แล้ว ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งให้กลับไปอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ออกแบบระบบรองรับไว้แล้ว และขอความร่วมมือผู้ขาย ATK อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน ขอให้ทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม ภาครัฐมีกลไกติดตามการค้าขายในทุกช่องทางหากพบมีการเอารัดเอาเปรียบ กักตุนสินค้า ค้าขายไม่เป็นธรรมจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย”
อยากให้ประชาชนที่กลับมาจากต่างจังหวัดได้เฝ้าระวังอาการตัวเอง อย่างน้อย 14 วัน หากทำงานจากที่บ้านได้จะดีมาก โดยเฉพาะในสัปดาห์แรก ตรวจ ATK เป็นประจำ เพื่อให้เราพบเชื้อได้เร็ว และควบคุมป้องกันอย่างรวดเร็ว” ปลัด สธ.กล่าว