เครียด! จีน เจอ โควิดโอมิครอน ในผู้ป่วยที่กักตัวครบ 14 วัน

เครียด! จีน เจอ โควิดโอมิครอน ในผู้ป่วยที่กักตัวครบ 14 วัน

ทางการ จีน พบผู้ป่วย โควิดโอมิครอน ในผู้ป่วยที่กักตัวครบ 14 วันแล้ว ขณะนี้กำลังเข้ารักษาตัว ส่วนผลตรวจผู้เกี่ยวข้องเป็นลบ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางการจีนพบผู้ป่วยโอมิครอนรายที่สอง หลังจากชายคนดังกล่าวเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เข้ากักตัว 14 วัน ซึ่งผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ อย่างไรก็ตามชายคนดังกล่าวได้ตรวจหาเชื้ออีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม และถูกพบว่าติดโควิดโอมิครอน

เบื้องต้นผู้ป่วยรายนี้แสดงอาการป่วยโควิด และเข้ากักตัวที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับชายคนดังกล่าว และผลตรวจออกมาเป็นลบ

ขณะที่ทางสำนักข่าว CNN ได้รับการยืนยันจากสายการบินที่ผู้ป่วยเดินทางนั้น มีผู้โดยสารเกือบเต็มเครื่อง มีเหลืองเพียงที่นั่งชั้นธุรกิจหรือบิสสิเนสคลาสแค่หกที่เท่านั้น อย่างไรก็ตามทางทางการจีนไม่ได้ยืนยันว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากพื้นที่ใดหรือติดเชื้อเมื่อไหร่

หากอ้างอิงตามองค์การอนามัยโลกนั้น ผู้ป่วยโควิด-19 จะใช้เวลา 5-6 วันก่อนแสดงอาการป่วย อย่างไรก็ตามอาจใช้ได้นานถึง 14 วันก่อนแสดงอาการ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าโควิดโอมิครอนมีเวลาฟักตัวและแสดงอาการที่ต่างจากโควิดสายพันธุ์อื่นๆหรือไม่

เกิดเหตุ ไฟไหม้ตึกฮ่องกง ส่งผลให้ประชาชนติดอยู่บนหลังคากว่า 300 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดับไฟได้ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้ที่ตึกเวิล์ดเทรดเซนเตอร์อาคารสูง 38 ชั้นในฮ่องกง หลังจากที่เพลิงลุกไหม้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.37 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีประชาชนติดอยู่อาคารกว่าสามร้อยคน และมีประชาชนรอความช่วยเหลือบนบริเวณชั้นห้าของอาคารนับร้อย

โดยสำนักข่าว SCMP สื่อในประเทศจีนยังได้ระบุอีกว่ามีประชาชนอย่างน้อย 7 ราย สูดความพิษอีกด้วย และในจำนวนดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว 4 ราย เบื้องต้น SCMP ระบุว่าไฟเริ่มลุกไหม้ขึ้นที่ห้องสวิตซ์ไฟฟ้าก่อนที่เพลิงจะลุกลามอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว ฮ่องกงฟรีเพรซ รายงานว่าขณะนี้เพลิงยังคงลุกไหม้อยู่ และทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือกับประชาชนที่ยังติดอยู่ในอาคาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งระดับเตือนไฟของเพลิงอยู่ที่ระดับสาม ซึ่งถือเป็นระดับเตือนภัยระดับกลาง

สหราชอาณาจักร เผยได้รับคำร้องย้ายถิ่นฐานจากชาว ‘ฮ่องกง’ ถึง 9 หมื่นราย

สหราชอาณาจักร (UK) เปิดเผยยอดคำร้องขอย้ายถิ่นฐานสำหรับชาวจีน ฮ่องกง โดยพบว่ามีจำนวนถึง 9 หมื่นราย นับตั้งแต่เปิดให้ยื่นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

(14 ธ.ค. 2564) สหราชอาณาจักร (United Kingdom – UK) เปิดเผยยอดคำร้องขอย้ายถิ่นฐานสำหรับชาวจีนในเขตพื้นที่ ฮ่องกง โดยพบว่ามีการดำเนินการมากถึง 90,000 รายด้วยกัน ซึ่งเป็นจำนวนรวมตั้งแต่เปิดให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลจีนได้มีการปราบปรามผู้ประท้วงในพื้นที่ดังกล่าว

Liz Truss, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ได้เปิดว่า สำนักงานกระทรวงต่างประเทศนั้นได้รับคำร้องสำหรับการย้ายถิ่นฐานจากผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ฮ่องกง และถือหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษ (โพ้นทะเล) เป็นจำนวนเกือบถึง 9 หมื่นกว่ารายด้วยกัน

“ตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา ได้มีผู้ทำการยื่นคำร้องรับ Visa ภายใต้แนวทางดังกล่าวถึง 88,000 ราย ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล ฉันขอยินดีต้อนรับพวกเขาสู่สหราชอาณาจักร”

ทางการของสหราชอาณาจักร ได้ประมาณการว่า ภายในปีแรกของการดำเนินการแผนการนี้จะมีชาวฮ่องกงยื่นเรื่องขอย้ายถิ่นฐานถึง 154,000 ราย และภายใน 5 ปีต่อมานั้นจะสูงถึง 322,000 รายด้วยกัน

โดยแผนการดังกล่าวนี้ได้เริ่มใช้งาน ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประกาศถึงการไม่รับรองการใช้งานหนังสือเดินทางประเภท BN(O) เป็นเอกสารที่ถูกตามกฎหมายอีกต่อไป รวมไปถึงสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการต่อต้านปราบปรามผู้ประท้วงในพื้นที่ฮ่องกงที่เป็นชนวนส่วนให้มีเปิดให้การดำเนินการ และขยายระยะเวลาเพิ่มเติมนี้ขึ้นมา

ซึ่งหนังสือเดินทางประเภท BN(O) นั้นถือว่าเป็นเอกสารสิทธิพิเศษที่ชาวฮ่องกงได้รับหลังจากที่สหราชอาณาจักรได้คืนพื้นที่ฮ่องกงให้กับทางการจีนเมื่อปี 1997 รวมไปถึงสิทธิในการยื่นคำร้องขอย้ายถิ่นฐานเพื่อรับสัญชาติใหม่ด้วยเช่นกัน

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายใหม่ที่ยังไม่มีแอปพลิเคชันถุงเงิน สามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com หรือติดต่อลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครหรือเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เพื่อขอยืนยันการประกอบกิจการก่อนนำเอกสารไปยื่นที่สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ เพื่อดำเนินการเปิดแอปพลิเคชันถุงเงินต่อไป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป