‘มงคลกิตติ์’ เดินหน้าลุยหาหลักฐาน คดี ‘แตงโม’ เพิ่มเติม

‘มงคลกิตติ์’ เดินหน้าลุยหาหลักฐาน คดี ‘แตงโม’ เพิ่มเติม

พี่เต้ มงคลกิตติ์ เดินหน้าลุยไม่หยุดในการหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับคดีของ แตงโม ที่พลัดตกน้ำเสียชีวิต ลั่นได้ภาพสำคัญ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการฆาตกรรม นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก พูดถึงกรณีคดี แตงโม นิดา นักแสดงสาวชื่อดังที่พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ก.พ.

โดย พี่เต้ ระบุว่า “วันนี้จะหาหลักฐานเพิ่ม บริเวณ ท่าน้ำวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร และ กฟผ.” 

ซึ่งเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มีนาคม นาย มงคลกิตติ์ ระบุว่า “ถ้าพรุ่งนี้ ผมได้ภาพที่สำคัญทางคดี ก็จะทำให้ข้อสันนิษฐานว่าเป็นคดีฆาตรกรรม เป็นไปได้มากขึ้น”

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ นาย มงคลกิตติ์ ได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจบริเวณสะพานพระราม 7 เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีของ แตงโม รวมถึงขอดูกล้องวงจรปิดกับทางกรมทางหลวงชนบทอีกด้วย ขณะที่กลุ่มแฟนคลับและผู้ติดตามก็ต่างโพสต์ให้กำลังใจ นาย มงคลกิตติ์ และขอให้การทำงานราบลื่น

ที่ประชุม คกก. เห็นชอบแผน 4 เดือน นำ โควิด ออกจากโรคระบาดและเข้าสู่ โรคประจำถิ่น แทน ย้ำประชาชนยังคงต้องป้องกันตัวเช่นเดิม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ สธ. ได้ออกมาเปิดเผยถึงประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565  ว่าในที่ประชุมได้พิจารณาความพร้อมเพื่อเข้าสู่โรคประจำถิ่น และมีมติ เห็นชอบหลักเกณฑ์การพิจารณาให้บริหารจัดการโควิด 19 แบบโรคประจำถิ่น

ซึ่งเวลานี้มีหลายประเทศที่เตรียมการเปลี่ยนผ่านโควิด 19 ไปสู่โรคประจำถิ่น เช่น ประเทศในทวีปยุโรป สำหรับประเทศไทยมีการเตรียมมาตรการในการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับระดับสถานการณ์ โดยคำนึงถึงทุกมิติ อาทิ การเดินทางเข้าประเทศไทยตามโปรแกรม Test &Go ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพพร้อมกับการอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางต่างชาติและคนไทย ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ

นายอนุทิน กล่าว “การเข้าสู่โรคประจำถิ่นนั้น จะมีการจัดเตรียมแผนเป็นเฟสๆ หลักๆ คือ 4 เดือน โดยจะมีแนวทางครอบคลุมทุกมิติ เตียง การรักษาพยาบาลมีพร้อม อัตราความรุนแรงของโรคควบคุมได้ จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ภายใต้อัตราส่วนของสากล สอดคล้องกับมาตรฐานองค์การอนามัยโลก มียารักษาพร้อม การเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็ว การให้ยาอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ครอบจักรวาล ที่สำคัญการเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่น ประชาชนยังต้องปฏิบัติตามาตรฐานป้องกันโรคเช่นเดิม ทั้งมาตรการ VUCA ประกอบด้วย V- Vaccine, U-Universal Prevention, C- Covid-19 free setting และ A- ATK ซึ่งเราจะพยายามทำให้ประชาชนมีความเข้าใจว่า หากทุกคนได้รับวัคซีนครบถ้วน โดยเฉพาะบูสเตอร์โดส จะลดความรุนแรงได้”

ในส่วนของผับบาร์ คาราโอเกะ จะสามารถเปิดได้ หากโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 ก.ค. แต่จะมีรายละเอียดขั้นตอนที่จะมีแผนดำเนินการออกมา

‘ประยุทธ์’ วอน ปชช. ประหยัดพลังงาน หลังราคาน้ำมันพุ่ง

ประยุทธ์ ได้ออกมาวอนให้ประชาชน ประหยัดพลังงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากสงครามรัสเซียและยูเครน  ขณะนี้รัฐบาลกำลังเตรียมมาตรการรับมือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า มีอะไรให้สอบถามจากโฆษกรัฐบาล เพราะมีหลายเรื่อง สำคัญที่สุด จะแก้ปัญหาจากสถานการณ์สู้รบอย่างไร ซึ่งมีหลายมาตรการที่จะต้องเตรียมการ ไว้ล่วงหน้า

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มเกิดความเดือดร้อนแล้วโดยเฉพาะปัญหาเรื่องพลังงาน น้ำมันที่ใช้เงินตรึงราคาให้อยู่ในเกณฑ์ 30 บาทในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ราคาต้นทุนสูง เพิ่มขึ้นทุกวัน จึงจะต้องเตรียมมาตรการ

นายกฯยังได้กล่าวอีกว่า “ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกัน ประหยัดพลังงาน เปิด-ปิดไฟ ให้เป็นเวลา รวมถึงการใช้รถยนต์ ยืนยันไม่ได้ห้ามใช้ ใครใช้ได้ก็ใช้ไป ถ้าไม่จำเป็นก็ขอให้ลดลง รวมถึงการดูแลเครื่องปรับอากาศ ควรหมั่นทำความสะอาดแอร์ และในการทำงาน ขอให้ประชุมผ่านระบบวิดีโอ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย เป็นการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น ส่วนที่เหลือรัฐบาลก็จะหามาตรการมาดูแล

ซึ่งต้องใช้เงินทั้งนั้น เฉพาะค่าตรึงราคาน้ำมัน ขณะนี้ใช้วันละ 600 ล้านบาท ในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล จึงอยากให้ช่วยคิดกัน ถ้าราคาน้ำมันขึ้นทุกวัน จะต้องใช้เงินวันละเท่าไหร่”

หากใครติดตามข่าวสารการเมืองของ พรรคภูมิใจ คงคุ้นชื่อ นักการเมืองเจนเวทีคนนี้ กับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ วันนี้  The Thaiger พาทุกท่านย้อน ประวัติ ชาดา ไทยเศรษฐ์ นักการเมืองผู้ไม่ธรรมดา กับฉายาเจ้าพ่อน่านน้ำสะแกกรัง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เกิดวันที่ 7  มิถุนายน ปีพ.ศ. 2504 ในครอบครัวมุสลิมปาทาน ที่อพยพจากปากีสถาน ตั้งรกรากที่อุทัยธานีตั้งแต่รุ่นปู่ โดนปู่ของชาดาเป็นพอค้าเนื้อรายใหญ่ของอุทัยธานี แต่รุ่นพ่ออย่าง “เดชา ไทยเศรษฐ์” เป็นพ่อค้าซุง แต่หันมาค้าเนื้อ ส่งออกต่างประเทศ และขายเนื้อในจังหวัดอุทัยธานี

ชีวิตวัยเด็กของ ชาดา จัดได้ว่าลำบาก เพราะตอนที่เขาอายุ 7 ปี ประมาณปี พ.ศ. 2511 พ่อของเขาถูกยิงเสียชีวิต ในเวลา 7 ปีต่อมาแม่ของชาดา นางปาลี้ ก็มาถูกยิงเสียชีวิตอีกคน และในปีเดียวกันนั่นเองพี่ชาย ชัยยศ ที่มารับช่วงค้าเนื้อก็ถูกยิงเสียชีวิตอีกคน เหลือเพียงชาดากับมนัญญา ผู้เป็นน้องสาวต้องใช้ชีวิตด้วยกันสองคน ในด้านการศึกษา ชาดาจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจาก ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี และได้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรีใน สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป